วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้


ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้


ใบงานที่ 10 เรื่อง คิดวิเคราะห์สร้างทางเลือก และเกณฑ์ที่ใช้
ให้นักเรียนเลือกกระบวนการหรือกิจกรรมที่ต้องน่าจะทำได้ เมื่อทำกิจกรรมต่อไปนี้
1. ปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่บ้าน
        วิธีที่ 1 ปลูกในกระถางดินเผา
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ ... พื้นที่มีจำกัด ...
        วิธีที่ 2  ปลูกในกระบะไม้
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ ...เป็นไม้ที่สามารถปลูกในกระบะได้
        วิธีที่ 3  ปลูกในร่องสวน
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้  ดูแลง่าย
        วิธีที่ 4  ปลูกพื้นที่ข้างบ้าน
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้  สะดวกกับการเก็บ
        2. เก็บอาหารให้อยู่ได้นาน ๆ
        วิธีที่ 1  ดองเค็ม
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้  สามารถเก็บไว้ได้นาน
        วิธีที่ 2  ตากแห้ง
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้  ไม่ต้องใช่ต้นทุนที่ราคาแพง
        วิธีที่ 3 แช่อิ่ม
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ เก็บได้นาน และมีรสชาดดี
        วิธีที่ 4  เชื่อม
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ เก็บได้นาน และสีสันสวยงาม
        3. ตกแต่งห้องเรียนให้สวยงาม
        วิธีที่ 1 บริเวณหน้าห้องเรียน
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ เห็นชัดที่สุด
        วิธีที่ 2  บริเวณหลังห้อง
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ มักจะเป็นพื้นที่โล่งเสมอ
        วิธีที่ 3  ทางเข้า
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ เป็นสิ่งแรกที่เห็นเวลาเข้าห้องเรียน
        วิธีที่ 4  โต๊ะครู
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ เพื่อโต๊ะครูที่สวยงาม
4. การล้างผักให้ปลอดสารพิษ
        วิธีที่ 1 ให้น้ำไหลผ่าน
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ น้ำชะสารออกไปพร้อมสิ่งเจือปน
        วิธีที่ 2  ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ ล้างง่าย สะดวก
        วิธีที่ 3  ใช้น้ำเกลือ
                    เกณฑ์ที่เลือกใช้ หาง่าย
        วิธีที่ 4  ล้างด้วยด่างทับทิม
                        เกณฑ์ที่เลือกใช้ราคาถูก หาง่าย

credit : http://www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-8429.html
            http://phornphanit.blogspot.com/2012/08/10.html

ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์”


ใบงานที่ 8 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์


           การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่นพร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นเกมต่างๆ โปรแกรมประยุกต์ หรือ ซอฟท์แวร์ประยุกต์ การที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการที่มีคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กทาให้มีการใช้ งานคล่องตัวขึ้น จนในปัจจุบันสามารถนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ติดตัวไปใช้งานในที่ต่าง ๆ ได้สะดวก การใช้งานคอมพิวเตอร์ต้องมีซอฟต์แวร์ประยุกต์ ซึ่งอาจเป็นซอฟต์แวร์สาเร็จที่มีผู้พัฒนาเพื่อใช้งานทั่วไป ทาให้ ทางาน ได้สะดวกขึ้น หรืออาจเป็นซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้เป็นผู้พัฒนาขึ้นเองเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการทางานของตน
          โครงงานพัฒนาเกม เพื่อความรู้ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมารุก  โปรแกรม ต่อให้เพิ่ม เติมให้เต็ม (Magic Puzzle)  โปรแกรม เกมผู้รอดชีวิต โปรแกรมเกมทศกัณฑ์ เกมทายคำศัพท์ และเกมการคำนวณเลข เป็นต้น ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกความคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป และนำมาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่างๆ





ตัวอย่างโครงงาน
โครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือความเพลิดเพลิน
โปรแกรมประยุกต์ธนาคารความดี
โปรแกรมสร้างโมเดลสามมิติจากการวาดอย่างง่าย (CPS’ketchuu) 
เกมหมากรุก เกมหมากฮอส
เกมการคานวณเลข

ใบงานที่ 6 โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี


โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการจำลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทำต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคำอธิบาย พร้อมทั้งารจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทำโครงงานประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจำลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
อ้างอิง  http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7


โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จำลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทำต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคำอธิบาย พร้อมทั้งารจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทำโครงงานประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจำลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น


โครงงานจำลองทฤษฎี
1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเลี้ยงปลานิลด้วยคอมพิวเตอร์
2. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่องบิน
5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
6. โปรแกรมสังเคราะห์เสียงพูดเบื้องต้น
7. โปรแกรมจำลองการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
 อ้างอิง http://computer607.blogspot.com/2012/08/6.html


ตัวอย่างโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
          เนื่องจากโครงงานประเภทนี้ ผู้ทำโครงงานจะต้องมีพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี และต้องทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก จนมีความรู้อย่างกว้างขวาง และลึกซึ้งในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงยัง
ไม่เคยมีผู้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทนี้ส่งเข้าประกวดกับสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษาไทยเลย
ตัวอย่างโครงงานต่อไปนี้จึงมิได้เป็นโครงงานที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาเป็นผู้ทำไว้
-                   ทฤษฎีสัมพันธภาพ (E = mc2)
-                   การอธิบายอวกาศแนวใหม่
-                   กำเนิดของทวีปและมหาสมุทร
-                   การกำเนิดของแผ่นดินไหวในประเทศไทย
-                   การอธิบายเรื่องราวการดำรงชีวิตในอวกาศของมนุษย์        
 
credit : http://pioneer.netserv.chula.ac.th/~cpornth1/Web_SciProject/a01.htm


          โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จำลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น และเป็นโครงงานที่ผู้ทำต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่างๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษาแล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสูตร สมการ หรือคำอธิบาย พร้อมทั้งารจำลองทฤษฏีด้วยคอมพิวเตอร์ให้ออกมาเป็นภาพ ภาพที่ได้ก็จะเปลี่ยนไปตามสูตรหรือสมการนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น การทำโครงงานประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่างโครงงานจำลองทฤษฎี เช่น การทดลองเรื่องการไหลของของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาปิรันย่า และการทดลองเรื่องการมองเห็นวัตถุแบบสามมิติ เป็นต้น
           จากการศึกษาประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้จัดทำได้ทราบว่า โครงงานคอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท รายละเอียดของแต่ละประเภท มีอะไรบ้าง ทำให้ผู้จัดทำสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปสร้างสรรค์ผลงานให้ถูกประเภทยิ่งขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่แก่ผู้อื่นได้
credit: http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog-post_25.html






 โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจำลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่ผู้ทำต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคำอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีการจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์
อ้างอิง  http://www.thaigoodview.com/node/1134

ตัวอย่างโครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี
1. การทดลองปัจจัยต่างๆ ในการเพาะปลูกแก้วมังกรด้วยคอมพิวเตอร์
2. การทานายอุณหภูมิจากข้อมูลที่ผ่านมา
3. การทดลองผสมสารเคมีต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์
4. ปัจจัยต่างๆ กับการเคลื่อนที่ของเครื่ องบิน
5. ผลการปลูกข้าวในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
6. การเปรี ยบเทียบเทคนิคของการย่อขนาดแฟ้มข้อมูลคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแหล่งที่มาของข้อมูล
อ้างอิง http://kruoong.blogspot.com/2011/05/blog-post.html

ใบงานที่ 5 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาเครื่องมือ”



ความหมาย

          เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาดดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะมีแบบฝึกหัด คำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือกลุ่มการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ซึ่งอาจพัฒนาในรูปบทเรียนออนไลน์ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตัวเอง โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชำกิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สำคัญของประเทศไทย เป็นต้น


credit :  http://kruoong.blogspot.com/2011/07/blog-post_25.html


ตัวอย่าง

1.โครงงานพัฒนาเกม ชื่อโครงงานเกมพัฒนาการดานEQ สืบคนตอได
2. โครงงานโปรแกรมการคนหาคําภาษาไทย
3. โครงงานโปรแกรมอานอักษรไทย
4. โครงงานโปรแกรมวาดภาพสามมิติ
5. โครงงานโปรแกรมเขาและถอดรหัสขอมูล
6. โครงงานโปรแกรมบีบอัดขอมูล
7. โครงงานโปรแกรมประมวลผลคําไทยบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ
8. โครงงานโปรแกรมการออกแบบผังงาน
9. โครงงานพอรตแบบขนานของไทย
10. โครงงานการสงสัญญาณควบคุมอุปกรณอิเล็กทรอนิกส์

credit :  http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html


          ตัวอย่างโครงงานการพัฒนาซอฟแวร์ โปรแกรมสร้ างโมเดลสามมิติจากการวาดอย่างง่าย (CPS’ketchuu) ประเภทโปรแกรม เพือประยุกต์ ใช้ งานสาหรับลินุกซ์ (ระดับ นิสิต นักศึกษา) ่ รายงานฉบับสมบูรณ์ เสนอต่ อศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติสานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้รับทุนอุดหนุนโครงการวิจย พัฒนาและวิศวกรรม ัโครงการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13ประจาปี งบประมาณ 2553 โดยผูพฒนา นาย พิชยุตม์ พีระเสถียร (หัวหน้าโครงการ) ้ ันาย ชลทิตย์ ประทีปมโนวงศ์อาจารย์ที่ปรึ กษาโครงการ ผศ.ดร. พิษณุ คะนองชัยยศสถาบันการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กิตติกรรมประกาศ โครงการวิจยเรื่ อง “โปรแกรมสร้างโมเดลสามมิติจากการวาดอย่างง่าย CPS’ketchuu”เป็ นโครงการ ัที่ได้รับทุนอุดหนุนจากการการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แห่งประเทศไทย ครั้งที่13 จัดโดยศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ แห่งชาติ สา นักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติทั้งนี้โครงการนี้จะสา เร็ จลุล่วงไปไม่ได้เลยหากปราศจากความอนุเคราะห์จาก ผศ.ดร.พษิ ณุ คนองชัยยศอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการที่ได้ติดตามและให้คา แนะนา ที่เป็ นประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงการนี้มาโดยตลอดชลทิตย์ ประทีปมโนวงศ์พิชยุตม์ พีระเสถียร บทคัดย่อ โครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างโปรแกรมสร้างโมเดลสามมิติที่มีส่วนอินเตอร์เฟสตั้งอยูบนพื้นฐานของการวาด ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อลดความยุงยากในสร้างโมเดลสามมิติดวยอินเตอร์เฟสแบบดับบลิวไอเอ็มพีซึ่งเป็นวิธีแบบดั้งเดิม เนื่องจากผูใช้งานส่วนมากจะคุนเคยกับวิธีการวาดภาพซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงาน


credit :  http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html
            http://www.nectec.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=2135:2011-06-07-07-12-30&catid=152:2011-05-12-04-48-53&Itemid=803http://store.learnsquare.com/eserv/changeme:427/FullReport.pdf
            https://sites.google.com/site/walaipornskb/khorng-ngan-khxmphiwtexr          
            http://www.rayongwit.ac.th/chanarat/EQPROJECT/main.html http://www.thaigoodview.com/node/17030?page=0%2C7 

ใบงานที่ 7 โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน


ใบงานที่ 7 โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน
ความหมาย
โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวันเช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาโปรแกรม ที่เกี่ยวข้องมีการนาเอามัลติมีเดียไปประยุกต์ใช้งานในหลายๆ ด้าน เช่น
· ด้านการศึกษา - ด้านการศึกษานั้นได้นาเอามัลติมีเดียไปพัฒนาใช้และขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทาให้เกิดเครื่องมือช่วย สอนต่างๆ มากมาย และเกิดสื่ออิเล็กทรอนิกส์ช่วยสอนในรูปแบบต่างๆ - สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา โดยเป็นเครื่องมือช่วย รวบรวม วิเคราะห์ ออกแบบ สร้าง จัดการ ใช้งานและประเมินผล - คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ลักษณะมัลติมีเดีย - เผยแพร่การเรียนบนเว็บ เช่น e-Learning เป็นต้น – เกิดการเรียนรู้ทางไกล
· ด้านการฝึกอบรม - มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วยสอน เรียกว่า e-Training มีส่วนช่วยให้พัฒนาศักยภาพทาง บุคลากรเป็นอย่างมาก - ปัจจุบัน มีการพัฒนาเว็บสาหรับอบรมของสถาบันฝึกอบรมหลายแห่ง เช่น สถาบันพัฒนา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา http://www.guruonline.in.th
·ด้านความบันเทิง - มัลติมีเดียได้รับความแพร่หลายในวงการบันเทิงเป็นอย่างมาก เช่น ภาพยนต์ คาราโอเกะ เกมส์ ข่าว ละคร เป็นต้น

Credit : http://www.slideshare.net/Zikkapoo/ss-13963683


ตัวอย่างโครงงาน

การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์




โครงงานแกะลายกระจก
















วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ใบงานที่ 4 เรื่อง โครงงานประเภท “การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา”


 โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
         เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคำถามคำตอบไว้พร้อมผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
       
 โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ

โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาโดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล หลักภาษาไทย  และสถานที่สำคัญของประเทศไทย โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ วิถีชีวิตของคนไทยพวน โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก  โปรแกรม ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โปรแกรมสำนวนไทยพาสนุก โปรแกรมฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ โปรแกรมเรียนรู้คณิตศาสตร์


        โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ลักษณะเด่นของโครงงานประเภทนี้ คือ เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อมผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนนี้ ถือว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบออนไลน์ ให้ผู้เรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงาน ประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่างๆ โดยผู้เรียนอาจคัดเลือกเนื้อหาที่เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา ตัวอย่างโครงงาน เช่น การเคลื่อนที่แบบโปรเจ็กไตล์ ระบบสุริยจักรวาล ตัวแปรต่างๆ ที่มีผลต่อการชำกิ่งกุหลาบ หลักภาษาไทย และสถานที่สำคัญของประเทศไทย เป็นต้น
Credit: http://namkwanmay.wordpress.com

ตัวอย่างโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา 
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษาเช่น โครงงานเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ หรือการพัฒนาบนเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เป็นต้น
โปรแกรมส่งเสริมการเรียนรู้วิชาเคมี


    







โปรแกรมส่งเสริมการเรียนวิชาคณิตศาสตร์



โปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุก (Thai Musical) : Developer Message : " ดนตรีไทยเป็นดนตรีที่มีความไพเราะเป็นอย่างยิ่ง และเป็นวัฒนธรรมของชนชาวไทยที่สืบทอดมาแต่โบราณการ อีกทั้งเป็นการสื่อสารความคิดอันชาญฉลาดของบรรพบุรุษของชนชาวสยาม และดนตรีไทยนี้เองสามารถประยุกต์ให้เข้ากับดนตรีสากลต่างๆได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างไพเราะเสนาะหูเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นเราทางผู้พัฒนาจึงตระหนักถึงความสำคัญของดนตรีไทย และได้คิดที่จะพัฒนาโปรแกรม ดนตรีไทยแสนสนุกเพื่อให้เยาวชนสามารถเรียนรู้เครื่องดนตรีไทยที่มีอยู่มากมาย ได้เรียนรู้และเข้าใจหลักการทำงานของเครื่องดนตรีชิ้นนั้น และยังมีอิเล็คโทนดนตรีไทยเข้าร่วมอยู่ และยังให้อาจารย์สามารถเป็นสื่อการสอนวิชา ดนตรีไทยได้ ซึ่งทำให้เด็กนักเรียนเรียนรู้และเข้าใจเครื่องดนตรีของไทยอย่างมากขึ้น และสนุกสนานกับการเรียนรู้


Effective.English.v1.001.034
Effective.English เป็นโปรแกรมสำหรับฝึกทักษะการเรียนรู้สำหรับเด็กวัยอนุบาล ถึงนักเรียนชั้นประถมในช่วงชั้นที่ 1(ป.1-ป.3) โปรแกรมนี้ประกอบไปด้วยวิธีฝึกทักษะมากมาย เช่น เกมใบ้คำ ตัวอย่างการลากเส้นเขียนอักษรภาษาอังกฤษ การฝึกอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ การทายคำศัพท์จากรูปภาพ เกมจับคู่ เกมทายลำดับตัวเลข ศัพท์เกี่ยวกับรูปเรขาคณิต เป็นต้น


Get Clever

ในโปรแกรมนักเรียนสามารถบรรยายความรู้ ความเข้าใจ แสดงความคิดคิดเห็นด้วยการพิมพ์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือด้วยการเขียนในใบงาน ที่พรินท์มาจากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ โปรแกรมสามารถบันทึกเสียงตนเอง แทนเสียงตัวละครในเรื่อง และเปิดฟังเสียงพากและฟังลีลาการใช้ภาษาของตนเองได้ 







       สำหรับโปรแกรม e – Book นั้น เป็นโปรแกรมที่เปรียบได้กับ การทำหนังสือให้มีชีวิตบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งโปรแกรมนี้ดิฉันมีโอกาสได้เรียนและลงมือปฏิบัติจริงในช่วงชั้นปีที่ 3 ภาคเรียนที่ ดิฉันเลือกที่จะทำหนังสือวรรณคดี เรื่อง สังข์ทอง ผ่านการใช้โปรแกรมนี้ และเมื่อทำเสร็จก็พบว่ามันไม่ยากอย่างที่คิดไว้  ซึ่งในตอนแรกนั้นก็รู้สึกหวั่นใจกลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดีนัก แต่พอลงมือปฏิบัติจริงก็รู้สึกได้ทันทีว่าเทคโนโลยีและสื่อการเรียนรู้ในสมัยใหม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับการศึกษาไทยเป็นอย่างมาก หากเรานำมาใช้ในทางที่ถูก มันก็จะยิ่งมีคุณค่าอย่างอนันต์กับมนุษย์เรา ดังจะเห็นได้จากโปรแกรม e – Book


วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Blog

ฮือฮา "นาซ่า"ค้นพบ"ดาวเคราะห์คู่แฝด"ของโลก ห่างออกไป 600 ปีแสง



นักดาราศาสตร์จากนาซ่ายืนยันการมีอยู่จริงของดาวเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายโลก ในเขตอาศัยได้ (habitable zone) หรือย่านหนึ่งในอวกาศที่ซึ่งดาวเคราะห์คล้ายโลกสามารถดำรงน้ำในสถานะของเหลวได้บนพื้นผิวและสามารถมีสิ่งมีชีวิตคล้ายกับสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งโคจรอยู่รอบๆดาวฤกษ์ดวงหนึ่งที่คล้ายๆกับดวงอาทิตย์


 ภาพเปรียบเทียบวงโคจรของดาวเคราะห์ Kepler-22b กับระบบสุริยะของโลก


         โดยดาวเคราะห์สีน้ำเงินดังกล่าวมีชื่อว่า Kepler-22b มีขนาดใหญ่กว่าโลกราว 2.4 เท่า และมีอุณหภูมิประมาณ 22 องศาเซลเซียส นี่ถือเป็นดาวเคราะห์ที่มีความคล้ายคลึงกับโลก ที่ได้รับการยืนยันว่าอยู่ใกล้โลกมากที่สุด อย่างไรก็ดี ทีมนักวิจัยยังไม่ทราบว่าดาวเคราะห์  Kepler-22b ประกอบด้วยหิน แก๊ส หรือของเหลว
        รายงานยังระบุว่า ดาวเคราะห์  Kepler-22b ห่างจากโลกออกไป 600 ปีแสง โดยแต่ละปีแสงคิดเป็นระยะทางราว 944,000 กม. ดังนั้นหากเดินทางไปที่นั่นด้วยกระสวยอวกาศ อาจต้องใช้เวลานานถึง 22 ล้านปี
         ดาวเคราะห์  Kepler-22b เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์จาก 54 ดวง ที่ได้รับรายงานว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับโลกมากที่สุด หรือที่เรียกกันว่า "Earth 2.0" จากการสังเกตโดยใช้กล้องโทรทรรศน์เคปเลอร์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจากการใช้กล้องตัวอื่นๆเพื่อสังเกต
          ดาวเคราะห์  Kepler-22b ตั้งอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ของมัน คิดเป็นระยะทางที่น้อยกว่าระยะทางจากโลกไปยังดวงอาทิตย์ของระบบสุริยจักรวาลราวร้อยละ 15 โดยระยะเวลาหนึ่งปีของดาวเคราะห์ดังกล่าวคาดว่ามีทั้งสิ้น 290 วัน




          อย่างไรก็ดี ดวงอาทิตย์ดวงดังกล่าวให้แสงสว่างน้อยกว่าดวงอาทิตย์ของโลกราวร้อยละ 25 ซึ่งทำให้ดาวเคราะห์ดังกล่าวมีอุณหภูมิที่ไม่สูงเกินไป ที่สนับสนุนแนวคิดที่ว่าอาจมีของเหลวอยู่บนนั้น และด้วยความดาวเคราะห์ดังกล่าวมีสีน้ำเงิน จึงอาจเป็นการบอกเป็นนัยว่า นั่นคือมีพื้นผิวที่เป็นแหล่งน้ำ สามารถดำรงชีพได้ หรือเป็นเขตเอื้ออาศัยไม่ร้อนหรือไม่หนาวเย็นจนเกินไป
           ทั้งนี้ ทางนาซ่ามีการเปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมามีการค้นพบดาวดวงใหม่ ที่เปรียบเสมือนโลกแห่งใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ แต่การค้นพบดาวเคราะห์สีน้ำเงินในครั้งนี้ เป็นความหวังมากทีเดียวสำหรับมนุษย์ที่จะเห็นสิ่งมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้ มันมีขนาดใหญ่ ประกอบกับมีพื้นหิน อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 72 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 21 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีภูมิอากาศคล้ายกับฤดูใบไม้ผลิ
            ด้านนายอลัน บอส หนึ่งในทีมนักวิจัย จากสถาบันคาร์เนกี้ กล่าวว่าการค้นพบครั้งนี้จะถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร The Astrophysical ว่าเป็นการค้นพบครั้งแรกที่มีความเป็นไปได้ว่า มนุษย์จะสามารถอาศัยอยู่ได้ ขณะที่นายวิลเลียม บอรุคกี นักวิทยาศาสตร์หัวหน้าโครงการเคปเลอร์ กล่าวว่า เป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญอีกครั้งหนึ่งในภารกิจของนาซ่าที่พยายามค้นหาดาวเคราะห์ที่มีความคล้ายคลึงโลก


กลูตาไธโอน" ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้จริงหรือ?


  

กลูตาไธโอน (Glutathione) เป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วย กรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine, Glycine, Glutamic acid กลูตาไธโอนเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ชนิดละลายน้ำได้ที่สำคัญที่ร่างกายสร้าง ขึ้น และเป็นพื้นฐานสำหรับสารแอนติออกซิแดนท์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมทั้งกลูตาไธโอน เปอร์ออกซิเดส สารประกอบกลูตาไธโอน ช่วยปกป้องร่างกายจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยตับในการย่อยสลายสารพิษ ร่างกายของเราจะผลิตมากขึ้นหากได้รับสารพิษเข้าไป เช่น ยาฆ่าแมลง สารเคมีต่างๆ ที่ปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม สารพิษเหล่านี้จะทำลายเซลล์และระบบของร่างกาย
สูตรเคมีของ Glutathione

              ความจริงแล้ว สารชนิดนี้ถูกคิดค้นเพื่อใช้รักษาโรคมะเร็งตับ แต่ปัจจุบันมีกลุ่มคลินิกเสริมความงาม อ้างว่าเป็นสารที่ใช้ผสมกับวิตามินซี ฉีดทำดีท็อกซ์ผิวขาว ทำให้มีการนำไปใช้เป็นอาหารผิวเพื่อผิวเนียนขาวใสอย่างแพร่หลายและกว้างขวาง ซึ่งเป็นที่นิยมของดารา นางแบบ นายแบบ


กลูตาไธโอนชนิดฉีด

หน้าที่หลักของกลูตาไธโอนที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ

              1. Detoxification : กลูตาไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะ Glutathione-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิดให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้น และง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันตับจากการถูกทำลายโดยแอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด

              2. Antioxidant : กลูตาไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสื่อมหรือความแก่ของเซลล์ (aging) และการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เส้นเลือดตีบ ต้อกระจก เป็นต้น

              3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้ กลูตาไธโอนยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีน และ Prostaglandin สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงที่ต้องการให้ผิวเนียน ใส ขาวกระจ่าง เปล่งปลั่ง (เป็นเหตุผลที่เธอเสริมกลูตาไธโอนมากที่สุด)


              โดยปกติ แล้วร่างกายเราจะไม่ขาดกลูตาไธโอน นอกเสียจากจะเป็นโรคบางชนิดที่ทำให้เกิดความต้องการสารตัวนี้มากขึ้น หรือโรคที่ต้านการสร้าง Glutathione โรคหรืออาการบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการขาดสารนี้หรือต้องการสารนี้ในปริมาณ เพิ่มขึ้น ได้แก่ โรคตับ เบาหวาน โรคความดัน ต้อหิน มะเร็ง เอดส์ ฯลฯ ในผู้ที่สูบบุหรี่จัดจะพบว่ามีระดับกลูตาไธโอนในเลือดต่ำ เนื่องจากอัตราในการใช้กลูตาไธโอนเพิ่มขึ้น


              พบสารชนิดนี้ได้ในพืชผักชนิดต่างๆ ผลไม้ทั่วไปและเนื้อสัตว์ แต่จะพบมากในหน่อไม้ฝรั่ง อะโวกาโด วอลนัท นม ไข่ สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม ปัจจุบันกลูตาไธโอนมีวางจำหน่ายในหลายรูปแบบ เช่น ชนิดเม็ดหรือแคปซูล ชนิดพ่น ชนิดฉีดเข้าเส้นและฉีดเข้ากล้ามเนื้อ

Credit : http://www.drug2home.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539166014&Ntype=2


กินเค๊กแล้วไม่อ้วน ต้องกินให้ถูกเวลา :)



            พูดถึงการกินเค้กอย่างไรไม่ให้อ้วน สิ่งแรกที่สาว ควรรู้ไว้เลยว่าต้องกินให้ "ถูกเวลา" ซึ่งช่วงเวลาที่หมาะสมกับการกินเค้กนั้นคือ "ช่วงเช้า" อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอาหารเช้ามีความสำคัญต่อร่างกาย ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายทำงานมากที่สุด เมื่อเรากินอาหารเข้าไปทำให้สามารถนำอาหารที่เรากินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
             ดังนั้นสาวๆ ที่ชอบกินเค้ก ให้นำมาเป็นอาหารที่ให้พลังงานในมื้อเช้า เพราะในช่วงเช้าระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำ ไม่ว่าใครก็ตามที่ตื่นนอนใหม่ๆ สมองจะไม่สามารถทำงานได้คล่องแคล่วในช่วงเวลานี้ เพราะจะมีการตอบสนองที่ไวต่อน้ำตาลในเลือดต่ำเป็นพิเศษ และน้ำตาลเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย
              ถ้าเรากินเค้กในมื้อสาย หรือคิดง่ายๆ ว่าเป็นของว่างระหว่างมื้อในตอนกลางวัน จะทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้พลังงานที่ได้จากการกินเค้กหมดไป ร่างกายของจะสามารถใช้พลังงานให้หมดไปด้วยการทำกิจกรรมใน 1 วัน โดยการเคลื่อนไหว ยิ่งเคลื่อนไหวมากร่างกายจะดึงพลังงานจากเค้ก 1 ชิ้นให้หมดไปในช่วงก่อนเที่ยงได้ ... แค่ปรับเวลาการกินเค้กมาอยู่ในช่วงเช้า สาวสวยอย่างเราก็ไม่ต้องกลัวอ้วนอีกต่อไป

Credit : http://woman.sanook.com

My Home :)


บ้านของนางสาว ปรียาภรณ์ อินต๊ะโมง
109/35 ม.10 ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่